ที่ ปรึกษา การ ตลาด ออนไลน์
กระทู้รีวิว
ค้นในกูเกิ้ลเจอแต่คนนี้ ก็แนะนำดีอยู่นะคะ
อาจารย์แชมป์ ธิติพล เทียมจันทร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ความคิดเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ขอตอบในมุมที่ปรึกษานะคะ (เราเองก็ศิษย์จารย์แชมป์เหมือนกัย)
สำหรับคำถามนี้น่าจะแยกตอบได้หลายประเด็น
1.ควรจ้างที่ปรึกษาทางการตลาดรึเปล่า ...เราควรทำความเข้าใจตรงนี้ก่อนว่า คนที่ทำอาชีพที่ปรึกษาก็คือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำ แต่ไม่ใช่ผู้ลงมือทำ การลงมือทำขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการมีการสั่งการให้ทีมงานดำเนินการตามความเห็นนั้น หากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นสอดคล้องไปในทางเดียวกัน และลงมือทำ คอยแก้ไขปัญหาร่วมกัน ความสำเร็จก็เกิดขึ้นได้ตามเป้าหมายและวิธีการของทั้งสองฝ่าย แต่หากที่ปรึกษาบอก ผู้ประกอบการไม่ลงมือทำตามกรอบเวลาที่ตกลงกัน ภาวะตลาดอาจมีความคลาดเคลื่อนและอาจไม่ได้ผลก็ได้ หรือ เมื่อติดปัญหาไม่หันหน้ามาคุยกันไม่บอกกัน หรือมีทัศนคติต่อกันไม่ดี ความสำเร็จก็เป็นไปได้ยากเช่นเดียวกัน ...ความร่วมมือ รู้หน้าที่ของกันและกัน ลงมือทำ ก็จะเป็นผล
2. ถ้ามีใครมีประสบการณ์จ้างแล้วผลเป็นอย่างไรกันบ้างครับ...ผลแต่ละรายไม่เสมอกัน เพราะโจทย์หรือความต้องการที่ปรึกษาไม่เหมือนกัน การวิเคราะห์ปัญหาก่อนให้คำปรึกษาก็ใช้เวลาไม่เท่ากันในแต่ละธุรกิจ ขึ้นอยู่กับขนาดและความยากหรือง่ายของข้อมูลที่ต้องประเมิน วิเคราะห์ อย่างแม่นยำ และวิธีการดำเนินกิจกรรม ระยะเวลาก็ไม่เท่ากัน หากเป็นงานโครงการภาครัฐ กิจการอาจได้ที่ปรึกษามาฟรี จำนวนตั้งแต่ 3 -12 วัน แต่หากจ้างเองก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขข้อตกลง อาจมีประยะเวลาตั้งแต่ 6 เดือน จนไปถึง 2-3 ปี ...แต่ความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายลงมือทำหน้าที่ของตนเองอย่างดี ผลก็จะออกมาดี เช่น ตอนนี้ยอดขายได้ปีละ 10 ล้าน มาหลายปีติดต่อกัน ยอดขายไม่คืบหน้า ก็อาจใช้ที่ปรึกษาเข้ามาช่วยเหลือว่า
ทำอย่างไรปีต่อไปจะเพิ่มยอดขายเป็น 15 ล้าน เป้าหมายเป็นประมาณนี้ ปัญหาแบบนี้อาจใช้เวลาทำการบ้านกับที่ปรึกษาสัก 3 เดือนเพื่อหาโมเดลใหม่ในการทำเงิน และหาเครื่องมือหรือวิธีการทางการตลาดที่เพิ่มยอดขายได้อย่างแม่นยำ แล้วลองลงมือทำสัก 2 ไดรมาส เพื่อดูความเป็นไปได้ ปัญหา และอาจมีการปรับแผนกัน ...ส่วนใหญ่ก็ประมาณนี้ ทั้งในกรณี online และ offline หรือ ทั้งสองแบบผสมผสานกัน
3. คุ้มค่ากันรึเปล่า...ความคุ้มค่า ก็ขึ้นอยู่กับผู้ว่าจ้าง ว่าได้ตั้งโจทย์และใช้ประโยชน์จากความสามารถของที่ปรึกษาอย่างเต็มที่ไหม ถ้าตั้งโจทย์ก่อนและใช้ประโยชน์ ก็คุ้มค่า ส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จคือ ผู้ประกอบการ/เจ้าของกิจการไม่มีโจทย์ เกิดความลังเล ไม่เชื่อถือ ไม่ถาม ...ก็ไม่คุ้ม
4. จะเห็นผลภายในระยะเวลาเท่าไรกันบ้าง...ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความยากง่ายของงาน บางงานทำ 3 เดือน ก็สำเร็จได้ ซึ่งเป็นโจทย์เล็ก ๆ แต่บางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ ก็ใช้เวลาหลายปี กว่าจะสำเร็จ เช่น ตอนนี้มีรายได้ปีละ 10 ล้าน เป้าหมายคือ ต้องการเป็นบริษัทมหาชน (ตลาด MAI) ซึ่งอย่างน้อยต้องมียอดขายเดือนละ 30 ล้าน ก็ต้องใช้เวลานาน เพราะไม่ใช่เรื่องตลาดเรื่องเดือนแล้ว มีกระทบจะมีหลายเรื่องทั้ง การผลิต..จะผลิตทันหรือไม่ ถ้าไม่ทันต้องทำอย่างไร ..ขนส่ง ต้องปรับระบบอย่างไรถึงจะไม่เสียลูกค้า..เงินทุนหมุนเวียน..ทำอย่างไรถ้าเกิดติดขัด..เงื่อนไขทางการค้าต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง...ระบบบัญชีต้องทำอย่างไร ...ต้องวารระบบสารสนเทศที่เหมาะสมอย่างไรและลงทุนอย่างไรดี ...ต้องโปร่งใสอย่างไรเพื่อจะสามารถมีความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์... อย่างนี้ก็หลายปี เพราะที่ปรึกษาที่รับงานวางแผนการตลาดที่ต้องทำยอดขายเพิ่มจากเดิมปีละ 10 ล้าน เป็นปีละ 300 ล้าน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ในเบื้องต้น ถ้าเริ่มจริง ๆ ก็อาจยังไม่จำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษาตั้งแต่เริ่มเปิดกิจการ เพราะมีหน่วยราชการหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางด้านธุรกิจ ที่สามารถเริ่มให้ความรู้ได้ แนะนำได้เบื้องต้น เพื่อให้เราเห็นแนวทางในการเริ่มต้นธุรกิจ มีข้อมูลตามเว็บไซด์ของรัฐหลายแห่งสามารถหาอ่านได้ หากมีคำถามเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่ ก็ต้องช่างซัก ช่างถาม ช่างหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับกิจการ และเริ่มลงมือทำ
หน่วยงานของรัฐหลายแห่งมีการให้ความรู้เช่นการอบรม สัมมนา แบบไม่มีค่าใช้จ่ายหลายโครงการต่อปี ซึ่งสามารถหาข้อมูลและเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านั้นได้ แล้วนำแนวความคิดจากที่เรียนมาตอบตัวเองให้ได้ว่า ควรทำ หรือไม่ควรทำ แล้วลงมือทำ
หากไม่อยากจ้างที่ปรึกษา..ก็ลองทำแผนบนกระดาษให้เสร็จก่อนลงมือทำ มองแผนงานให้ขาดว่าจะทำอย่างไร อุดข้อเสี่ยงทั้งหลายอย่างไร เมื่อทำงานบนกระดาษเสร็จแล้ว ก็ลงมือทำ...ทำแล้วก็กลัวพลาด กลัวมีปัญหา...ใช่ไหม? หลายคนก็กลัว แต่ก็แนะทำให้ทำ ผิดพลาดก็จะเป็นครูให้เราเรียนรู้ว่าบางอย่าช้าไป บางอย่างเร็วไป ข้อผิดพลาดในกิจการมันไม่ได้ทำให้เกรดตก ติดคุก หรือตาย หรือเป็นอะไรที่เสียหาย ทำผิดพลาดแล้วรู้ก็เท่ากับได้เรียนรู้ การเรียนรู้ก็คือประสบการณ์ของธุรกิจ เมื่อเจ้าของธุรกิจมีประสบการณ์สะสม ประสบการณ์ก็จะถูกถ่ายทอดสู่องค์กร ก็จะเป็นความสามารถหลักของกิจการในที่สุด ไม่มีอะไรเสียหายกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
เมื่อกิจการดำเนินมาได้ระดับหนึ่งที่เราเห็นว่ามีปัญหาแน่นอนที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ หรือเกิดซ้ำ ๆ เราแก้ปัญหาไม่ได้เสียที หรืออยากยกระดับกิจการให้เติบโตอย่างรวดเร็ว...การจ้างที่ปรึกษาก็อาจมีความสำคัญ..เมื่อถึงเวลาเหมาะสม ที่ปรึกษาก็ช่วยผู้ประกอบการให้ไปถึงเป้าหมายได้
กระทู้น่าสนใจ
เราเป็นธุรกิจขนาดเล็ก อยากขอสอบถามเกี่ยวกับที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์
จะจ้างที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์